ความสุขคนไทย..ที่หายไป

^_^บทความ "ความสุขคนไทย..ที่หายไป" เขียนโดย..ภูริภัทร์ สุทาศิริ

>>คนไทยควรตั้งคำถามว่า “ทำไมทุกวันนี้ ความสุขจึงมีน้อยลงเรื่อยๆ ไม่เหมือนแต่ก่อน ยิ่งแสวงหาความสุข ดูเหมือนความสุขยิ่งเลือนหายไป” ผมคิดว่าสาเหตุสำคัญส่วนหนึ่ง ก็มาจากโครงสร้างทางสังคมเปลี่ยนแปลงไป ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ การเมือง ที่ทำให้วิถีชีวิตของผู้คนก็เปลี่ยนไปตาม ทุกคนต่างมุ่งแสวงหาวัตถุมาปรนเปรอตัวเองอย่างเดียว เลยคิดว่า การแสวงหาวัตถุมาตอบสนองความต้องการของตัวเอง นั่นแหละคือความสุข เเม้เเต่การเรียกร้องประชาธิปไตยของปวงชนชาวไทย ก็คิดว่า การเมืองการปกครองในอุดมคติของตนเอง ควรจะเป็นเเบบนั้นเเบบนี้ เมื่อมันไม่เป็นไปอย่างที่ตนคิด จึงก่อม๊อบประท้วง เหมือนเด็กไม่ได้ของเล่นดั่งใจ ก้ร้องงอเเง เอาเเต่ใจ ยิ่งเเสวงหาประชาธิไปตย ดูเหมือนยิ่งเลือนหายไป..ทุกคนต้องเข้าใจว่า "หากทุกสิ่งสมหวังดั่งใจคิด สิ้นชีวิตจะเอาของกองไว้ที่ไหน จะได้บ้างเสียบ้างช่างปะไร ขอให้เราสุขใจเท่านั้นพอ"

 

เเต่ความอยากความต้องการของมนุษย์ไม่มีที่สิ้นสุด จิตใจโหยหาแต่สิ่งที่ต้องการตลอดเวลา เพราะจิตใจไม่เคยอยู่กับปัจจุบัน แต่มันไปอยู่กับการสร้างเงื่อนไข อยู่ในความหวัง อยู่ในอนาคต คิดว่า ถ้าเราทำอย่างนั้นอย่างนี้ จะมีความสุข ลองคิดดู สมัยเรายังเด็ก คิดว่า ถ้าเราเรียนหนังสือจบ คงจะมีความสุข สักพักคิดว่ามีงานทำ คงจะมีความสุข สักพักถ้าเรามีแฟน คงจะมีความสุข ต่อมาถ้ามีบ้าน มีรถ คงจะมีความสุข ต่อมาเมื่อมีโรคภัยไข้เจ็บเบียดเบียนทนทุกข์ทรมาน ก็คิดว่าถ้าเราตาย คงจะมีความสุข แสดงว่าความสุขเราไม่เคยอยู่ปัจจุบัน มีแต่ความสุขเฟ้อฝันถึงอนาคต วาดวิมานในอากาศ บางคนวิ่งหาความสุขจนเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า แต่ไม่เคยได้ความสุขที่แท้จริง

ความสุขที่แท้จริง มันอยู่ตรงไหน? มันอยู่ตัวเรานี่เอง ไม่ต้องไปอาศัยผู้อื่นหรือสิ่งอื่น แต่เป็นความความสุขภายใน คือภาวนา หมายถึงการเจริญสติ และปัญญา ทำให้จิตใจสงบ คลายความยึดมั่นถือมั่นในตัวตน รู้ตามความเป็นจริงว่าทุกสิ่งเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป เมื่อปัญญาถอดความยึดมั่นได้แล้ว นั่นแหละคือความสุขที่แท้จริง  

เเต่ในทางพุทธศาสนา เเยกความสุขไว้ ๒ อย่าง คือ

๑.สามิสสุข สุขอิงอาศัยอามิสคือวัตถุสิ่งของซึ่งเป็นเหยื่อล่อ ได้แก่ กามคุณ ๕ (รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส)

 ๒.นิรามิสสุข สุขไม่อิงอาศัยอามิส คือไม่ต้องอาศัยเหยื่อล่อ เป็นสุขปลอดโปร่ง เพราะใจสงบ หรือรู้แจ้งตามความเป็นจริง

 เพราะฉะนั้น เราอยากได้ความสุขแบบไหน จะเป็นสุขชั่วครั้งชั่วคราว หรือความสุขที่จีรังยั่งยืน สมการแห่งความสุขขึ้นอยู่ที่ตัวเราเป็นคนเลือก...