Warning: "continue" targeting switch is equivalent to "break". Did you mean to use "continue 2"? in /home2/mybaacor/public_html/templates/sumter_blue/functions.php on line 185
รายรับ-รายจ่าย กฐินสามัคคี 2011
รายรับ $ 12,109.99
Cash $ 7,727.00 / Check $ 4,382.99
รายจ่าย $ 1,800
ยอดเงินคงเหลือ $ 10,309.99
ด้วยบุญกุศลที่คณะญาติโยมได้ทำบุญกฐินสามัคคีในครั้งนี้ ขอให้ทุกท่านจงอยู่ดีมีอยู่ อยู่เย็นเป็นสุข มั่งมีศรีสุข ปรารถนาสิ่งหนึ่งประการใดที่ประกอบด้วยธรรมเเล้วไซร้ ขอความคิดนั้นปรารถนานั้นจงสำเร็จๆทุกประการเทอญ
ประวัติความเป็นมา "กฐิน"
ประวัติของกฐินนั้นมีอยู่ว่า ครั้งหนึ่งภิกษุชาวเมืองปาฐา ประมาณ ๓๐ รูป มีความประสงค์จะไปเฝ้าพระพุทะเจ้า ณ เมืองสาวัตถี จึงพากันเดินทางจากเมืองปาฐาไปสาวัตถี แต่พอไปถึงเมืองสาเกต ซึ่งอยู่ในระยะทางอีก ๖ โยชน์จะถึงสาวัตถี ก็เผอิญถึงวันเข้าพรรษาภิกษุเหล่านั้นจะเดินทางต่อไปไม่ได้ จึงจำพรรษาอยู่ในเมืองสาเกต ในระหว่างจำพรรษามีความร้อนรนอยากเฝ้าพระพุทธเจ้าโดยเร็ว พอออกพรรษาก็ออกเดินทางจากเมืองสาเกต ในเวลานั้นฝนยังตกมากอยู่ ทางเดินก็เป็นโคลนตมเปรอะเปื้อน เมื่อมาถึงเมืองสาวัตถีได้เข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าทรงทราบความลำบากของพระภิกษุเหล่านั้น จึงทรงอนุญาตให้พระภิกษุทำพิธีกรานกฐิน ในระยะเวลาภายหลังวันออกพรรษาแล้วไป ๑ เดือน ภิกษุที่ได้ทำพิธีกรานกฐินแล้ว ย่อมได้รับอานิสงส์ คือความยกเว้นในการผิดวินัย ๕ ประการ เป็นเวลา ๔ เดือน (หมดเขตในวันเพ็ญเดือนสี่) อานิสงส์หรือความยกเว้นทั้ง ๕ ประการนั้น คือ
- ๑.เข้าบ้านได้โดยไม่ต้องลาภิกษุด้วยกัน
- ๒.เดินทางโดยไม่ต้องเอาไตรจีวรไปด้วย
- ๓.ฉันอาหารโดยล้อมวงกันได้
- ๔.เก็บอาหารที่ยังไม่ต้องการใช้ไว้ได้
- ๕.ลาภที่เกิดขึ้นให้เป็นของภิกษุผู้จำพรรษาในวัดนั้นซึ่งได้กรานกฐินแล้ว
ประเพณีการทอดกฐิน ในแต่ละปีกำหนดให้มีการจัดทอดกฐินขึ้นภายใน ๑ เดือน หลังประเพณีออกพรรษา โดยวัดที่จะสามารถรับกฐินได้ ต้องมีพระภิกษุจำพรรษาโดยไม่ขาดพรรษาเลย ไม่ต่ำกว่า ๕ รูป และแต่ละวัดสามารถรับกฐินได้ปีละ ๑ ครั้ง
การทอดกฐินเป็นกาลทาน ตามพระวินัยกำหนดกาลไว้ คือ ตั้งแต่แรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๑ ถึงวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๒ ผู้มีจิตศรัทธาเลื่อมใส ใคร่จะทอดกฐิน ก็ให้ทอดได้ในระหว่างระยะเวลานี้ จะทอดก่อนหรือทอดหลังกำหนดนี้ ก็ไม่เป็นการทอดกฐิน
กฐินแปลว่าอะไร?
คำว่า กฐิน แปลว่า ไม้สะดึง คือกรอบไม้ชนิดหนึ่งสำหรับขึงผ้าให้ตึง สะดวกแก่การเย็บ ในสมัยโบราณเย็บผ้าต้องเอาไม้สะดึงมาขึงผ้าให้ตึงเสียก่อนแล้วจึงเย็บเพราะช่างยังไม่มี ความชำนาญเหมื่อนสมัยปัจจุบันนี้ และเครื่องมือในการเย็บก็ยังไม่เพียงพอเหมือนจักรเย็บผ้า ในปัจจุบัน การทำจีวรในสมัยโบราณจะเป็นผ้ากฐินหรือแม้แต่จีวรอันมิใช่ผ้ากฐิน ถ้าภิกษุทำเอง ก็จัดเป็นงานเอิกเกริกทีเดียว เช่นตำนานกล่าวไว้ว่า การเย็บจีวรนั้น พระเถรานุเถระต่างมาช่วยกัน ในการเย็บจีวร อุบาสกอุบาสิกาก็จัดหาน้ำดื่มเป็นต้น มาถวายพระภิกษุสงฆ์ มีองค์พระสัมมาสัมพุทธะเป็นประธาน โดยนัยนี้ การเย็บจีวรแม้โดยธรรมดา ก็เป็นการต้องช่วยกันทำหลายผู้หลายองค์ (ไม่เหมือนในปัจจุบัน ซึ่งมีจีวรสำเร็จรูปแล้ว)
KATHINA CEREMONY
Annual 'Kathina' Robe Offering Ceremony
Sunday, October 16, 2011
Sumter Forest Temple, Sumter, SC
Kathina is the annual robe offering season for the monks. At the end of the Buddhist Lent period, it is time for the monks in the monasteries to get the new set of their robes. The set contains 3 distinct pieces, thus: 1.The outer robe 2. The sarong-like garment 3. The shoulder robe (blanket)
The word 'Kathina' itself refers to the wooden frame that hold tight the saffron clothes enabling monks sew them firm and neat. Kathina tradition was originated during the Lord Buddha's time. It first happened when a group of 30 monks were on the way to meet Lord Buddha.
Unfortunately, they got stuck on the way in the rain. Through the muddy passage, their robes were dirty and shabby with mud. As a result, Lord Buddha granted permission for monks who completed their 3-month rains retreat to have a new set of saffron, so called "Kathina." The period permitted is within one month after the lent period ends. Thus, Kathina is a time-limit opportunity for the robe offering.
At Sumter Forest Temple, this year, the Kathina Ceremony falls on October 16, 2011. Enjoy this day with all activities in meritorious atmosphere. we will meditate together before giving lunch to monks. The highlight would be in the afternoon when all the Buddhist assembly will participate in the Kathina Robe Offering Ceremony.
Schedule
10.00 am Participants are expected to get ready in the holy hall
10.15 am Chanting in Pali
10.45 am Alms-Giving Ceremony
11.15 am Lunch break, lay people offer foods to monks
12.00 am Thai dance, Thai boxing show, Thai foods
01.00 pm Dharma talk
01.30 pm Joining the Robe Offering Ceremony
02.00 pm Monks give blessing/The ceremony is over
ประกาศเตือนญาติโยมที่สร้างปัญหาให้แก่วัด
ประกาศเตือนญาติโยมที่สร้างปัญหาให้แก่วัด
เมื่อวันอาทิตย์ที่ 11 กันยายน 2554 ที่ผ่านมา มีญาติโยมกลุ่มหนึ่งได้พากันมาที่วัดป่าซัมเตอร์ (ขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่ระบุชื่อ เพราะจะเป็นอัปมงคลแก่เว็บไซต์) และพากันแสดงออกซึ่งกิริยามารยาทอันน่ารังเกียจ และสร้างความเดือดร้อนให้แก่วัดและพระสงฆ์ ไม่เป็นที่เลื่อมใสของชุมชนที่ยังไม่เลื่อมใส และเป็นที่เสื่อมความเลื่อมใสของชุมชนที่เลื่อมใสอยู่แล้ว ทางคณะสงฆ์ผู้รับผิดชอบวัดตามกฎหมายและตามพระธรรมวินัย ได้ปรึกษากันแล้วมีมติเห็นชอบให้คว่ำบาตร (Ban) ญาติโยมกลุ่มดังกล่าว ด้วยกรรมวิธีดังนี้
1. ห้ามญาติโยมที่ไม่มีสติปัญญาขาดเหตุผล เข้ามาก่อกวนที่วัดอย่างเด็ดขาด ทางวัดต้องการชาวพุทธที่มีคุณภาพเท่านั้น ไม่เน้นปริมาณ
2. ถ้ามาร่วมกิจกรรมที่วัด คณะสงฆ์จะไม่ปฏิสันถาร ไม่พูด ไม่คุย ไม่รับอาหารบิณฑบาตของบุคคลๆ นั้น
3. คณะสงฆ์จะไม่รับกิจนิมนต์ที่บุคคลดังกล่าวนิมนต์
4. ถ้ายังไม่ยุติความเคลื่อนไหว ยังดื้อดึงสร้างปัญหาต่อไป ทางวัดจำเป็นต้องดำเนินตามกฎหมายไม่ให้ย่างกรายเข้ามาวัดอีกต่อไป
การตัดสินใจคว่าบาตรญาติโยมนี้ ไม่ได้ทำเพราะโทสะ หากแต่อาศัยความอนุเคราะห์และเมตตาจิตในญาติโยม ที่ไม่ต้องการให้สร้างบาปกรรม อันจะนำมาซึ่งอัปมงคลส่งผลสะท้อนย้อนกลับให้เกิดความเดือดเนื้อร้อนใจ และเป็นปัจจัยให้เข้าถึงอบายภูมิในภพหน้า การประทุษร้ายต่อท่านผู้ไม่ประทุษร้าย ผู้มีเมตตาจิต ทรงศีล เป็นบาปหนัก โดยเฉพาะการสร้างความเสื่อมเสียให้แก่วัดเป็นบาปมหันต์ หากท่านต้องการจะทำบาป ก็ขอได้โปรดไปทำที่อื่นที่เอื้ออำนวยให้ท่านทำบาปได้อย่างเต็มที่ วัดแห่งนี้เป็นสถานที่บำเพ็ญบุญกุศลของผู้ปรารถนาบุญใฝ่กุศลเท่านั้น
หากท่านไม่พอใจที่จะเข้าวัดป่าซัมเตอร์ หรือวัดป่าซัมเตอร์ไม่สามารถตอบสนองสิ่งที่ท่านต้องการได้ ท่านมีเสรีภาพที่จะเดินทางไปร่วมกิจกรรมที่วัดอื่นได้ตามความพอใจ ตามธรรมนูญการก่อตั้งและข้อบังคับของวัด วัดป่าซัมเตอร์ไม่มีสมาชิกถาวร เปิดโอกาสให้แก่ผู้สนใจในพระพุทธศาสนาเข้ามาศึกษาพุทธธรรม ไม่ได้สร้างขึ้นมาเพื่อเป็นที่ระบายอารมณ์และสั่งสมบาป
วัดป่าซัมเตอร์ บริหารจัดการโดยพระสงฆ์ ทำหน้าที่กำหนดวัตถุประสงค์ พันธกิจ แผนงาน และโครงการต่างๆ ที่จะทำให้การเผยแผ่พระพุทธศาสนาดำเนินต่อไปอย่างราบรื่น โดยยึดถือปฏิบัติตามกฎหมายของประเทศสหรัฐอเมริกา คล้อยตามหลักคำสอนและบทบัญญัติในพระธรรมวินัย ไม่ได้สร้างขึ้นมาเพื่อเป็นสมบัติส่วนตัวของใคร หรือชุมชนกลุ่มใด หากแต่สร้างขึ้นมาเพื่อประโยชน์ในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาเท่านั้น