ควันหลงวันวาเลนไทน์
และแล้ววันแห่งความรักก็ผ่านพ้นไปพร้อมๆ กับโลกียวิสัยที่ไม่เคยหยุดนิ่ง วันวาเลนไทน์ที่ผ่านมาอาจเป็นทั้งช่วงเวลาและประสบการณ์ที่ชื่นชมและขมขื่น บางคนอาจสมหวังกับความรัก บางคนอาจจะอกหักรักร้างรา ภายใต้กฎของธรรมชาติ สิ่งที่แน่นอนที่สุดคือความไม่แน่นอน วันนี้รักวันหน้าอาจเกลียด วันนี้ชังวันหน้าอาจชอบ วันนี้สมหวังวันหน้าอาจผิดหวัง เพราะทุกอย่างถูกกำหนดด้วยความเปลี่ยนแปลง
ถ้าทุกอย่างคงที่ไม่มีการเปลี่ยนสภาพ เราจะไร้ความทุกข์จริงหรือ? แน่นอน มันจะดีให้ความสุขสมหวังก็ต่อเมื่อสิ่งดีๆ เกิดขึ้นและคงอยู่กับเราตลอดกาล แต่มันก็น่าทรมานใจมิใช่น้อยมิใช่หรือ? หากสิ่งไม่ดีเกิดขึ้นและคงอยู่ตลอดไป สมมุติว่าเราเกิดมาแล้วยังคงสภาพเป็นทารกทั้งร่างกายและสติปัญญา ถึงเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ตาม คิดดูสิ...คงน่าใจหายและหดหู่มิใช่น้อย และคงไม่มีใครอยากให้สภาพการณ์อย่างนั้นเกิดขึ้นแน่นอน แต่เพราะสิ่งต่างๆ เปลี่ยนไปตามกฎของความไม่แน่นอนนี่แหละ จึงทำให้มนุษย์เรามีเวลาทำความเข้าใจกับชีวิตและธรรมชาติบ้าง ดังนั้น ความไม่แน่นอนนี่แหละจะคอยปรามเราไม่ให้ยึดติดกับสิ่งดีๆ จนเกินขอบเขต และมองสิ่งร้ายๆ ในฐานะเป็นเหรียญอีกด้านของสิ่งที่ดี แต่สำหรับผู้ที่ไม่ยอมรับกฎแห่งความไม่แน่นอนนี้ จะต้องทุกข์ทรมานตลอดไปเมื่อสูญเสียงสิ่งที่รักและประสบสิ่งที่เกลียด
ไม่มีใครปฏิเสธว่าความรักเป็นสิ่งที่ดีคอยค้ำจุนให้โลกของเรามีความสวยงามและช่วยรักษาสัมพันธภาพอันดีของมนุษย์และสรรพสัตว์ไว้ให้อยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข อาจกล่าวได้ว่าความรักเป็นยาสรรพคุณขนานเอกที่รักษาโรคแล้งน้ำใจได้อย่างชะงัก แต่ไม่มียาประเภทใดเลยที่มีแต่คุณไม่มีโทษ ยาที่ดีถ้าใช้เกินขนาดก็อาจกลายเป็นยาพิษปลิดชีวิตให้ดับดิ้นได้ ความรักก็เช่นเดียวกัน ถ้ารักเกินขอบเขตถึงขนาดทุ่มหมดหน้าตักเทหมดหัวใจ ก็อาจจะกลายเป็นไฟเผาใจให้ไหม้เกรียมได้ เมื่อคราเทพธิดาแห่งความรักบินลาจากไป ทิ้งความขมขื่นไว้เป็นอนุสรณ์คอยทิ่มแทงให้เจ็บปวดร้าวรานแทน เราจึงเห็นว่าบ่อยครั้งที่ความรักกลายเป็นความเกลียดชังเมื่อมันกลายสภาพ จากรสชาติอันหอมหวานเป็นขมขื่น และแล้วรางวัลตอบแทนที่ได้รับคือความเสียใจระทมทุกข์และความพยาบาทเกลียดชัง ที่นอกจากจะเผาผลาญตัวเองแล้วยังลุกลามไปเผ้าไหม้อดีตคนที่เคยรักด้วย
เพราะฉะนั้น เมื่อเรียนรู้ที่จะรัก ต้องรักให้เป็นอย่าเป็นแต่รัก ต้องมองให้เห็นถึงแก่นและคุณค่าของความรัก และพร้อมที่จะทำใจเมื่อความรักจืดจางหายไป กองไฟนำความอบอุ่นมาให้ในฤดูกาลอันหนาวเหน็บ แต่ก็พร้อมที่จะสร้างความเจ็บแสบปวดร้อนแก่บุคคลผู้นั่งผิงใกล้กองไฟมากเกินไป ดังนั้น เมื่อจะรักก็อย่ารักจนหลงจนหน้ามืดตามัว อย่ายึดจนติดหลงคิดว่าเราเป็นเจ้าของคนเดียว และอย่าหมายมั่นสำคัญผิดว่าคนรักจะอยู่กับเราหรือเราจะอยู่กับคนรักตลอดไป ความรักที่ไม่หลงไม่ยึดติดนี้จะทำให้เรารู้สึกเสียใจน้อยลงเมื่อยามรักสร่างซา หรือถ้าเราทำใจเตรียมพร้อมได้ตั้งแต่ต้น เราจะรู้สึกเฉยๆ เมื่อยามต้องเผชิญหน้ากับความสูญเสียพลัดพราก ไม่แสดงอาการตีโพยตีพายกระฟัดกระเฟียดหรือท้อแท้สิ้นหวังแบบโลกียชนเขาทำกัน
อนึ่ง ต้องแยกแยะความรักให้ออกว่า ความรักที่เราแสดงออกนั้นเป็นความรักประเภทไหน เป็นความรักเพื่อจะให้หรือความรักเพื่อจะเอา ถ้าเป็นความรักเพื่อจะเอาเราต้องดิ้นรนไขว่คว้าและทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มาซึ่งคนที่เราหมายปอง ต้องพิทักษ์รักษาหวงแหนอาลัยเมื่อยามจากกัน และต้องหัวใจสะบั้นแตกหักเมื่อนาวาแห่งรักถึงคราวอับปาง แต่ถ้าเรารักที่จะให้เราจะรู้สึกมีความปลอดโปร่งใจมากกว่า เพราะเราไม่ต้องดิ้นรนไขว่คว้าหรือแย่งชิงกับคนอื่น ถึงเราไม่ได้เราก็ไม่เสียใจเพราะสิ่งที่เราได้คือการได้หยิบยื่นความรักให้แก่คนอื่น และไม่ได้คาดหวังว่าจะต้องได้ความรักตอบแทนจากคนที่เราหยิบยื่นให้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ต้องยกระดับความรักให้ก้าวข้ามบ่วงกามสิเนหา เป็นความรักแบบเมตตาให้ได้ นั่นคือทำใจให้รักทุกคนเอ็นดูทุกสรรพสัตว์ ไม่ว่าเขาจะเป็นมิตรหรือศัตรูคู่อาฆาต พลังรักแบบเมตตานี้แหละจะช่วยพิทักษ์รักษาโลกและสร้างความสงบสุขร่มเย็นให้แก่สังคมมนุษย์
เหนืออื่นใด ความรักต้องเริ่มสร้างที่ตัวเองก่อน นั่นคือต้องรักตัวเองให้เป็นก่อน คนที่รักตัวเองจริง คือคนที่ไม่ปล่อยกายใจของตัวเองให้สกปรกโสมมด้วยความชั่ว พระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ว่าคนที่รู้ว่าตัวเองเป็นที่รักก็พึงรักษาตนให้ดี คำว่ารักษาตนให้ดีนั้น คือไม่ทำความชั่วทางกาย วาจา และใจ หรือเรียกขนานกันโดยทั่วไปว่า “คนดี” ทำตัวเองให้เป็นคนที่มีกายสะอาดจิตใจหมดจด เป็นบุคคลที่มีเสน่ห์น่าคบหาเป็นที่นับหน้าถือตาของคนทั่วไป คนประเภทนี้ไม่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ตัวเองและคนอื่น การที่เราเป็นคนดีนี่แหละจะเป็นฐานที่มั่นสำหรับการสร้างสรรค์ความรักให้แก่โลกและพิทักษ์รักษาให้ความรักอยู่กับโลกตลอดกาล ถึงวันวาเลนไทน์จะผ่านไปแต่ละครา ก็อย่าให้ความรักจืดจางไปกลับกาลเวลา เสียคนที่รักไปอย่าให้เสียความรักตนไป รักอื่นใดเล่าจะเท่ารักตน เมื่อรักตนก็ควรดำรงตนในทางที่ดีให้ได้ เกิดมาทั้งทีต้องสร้างดีให้ติดตน เกิดมาเป็นคนอย่าให้จนความดี... คนที่ทำความดีทางกายวาจาใจย่อมได้รับความรักนับถือจากคนทั้งหลาย เมื่อตายจากโลกนี้ไปก็จะมีคนอาลัยถวิลหา เกิดชาติไหนๆ ก็จะได้พานพบกับความรักสุขสมหวังในสิ่งที่ปรารถนา