Warning: "continue" targeting switch is equivalent to "break". Did you mean to use "continue 2"? in /home2/mybaacor/public_html/templates/sumter_blue/functions.php on line 185
30 ก.ย.55 ทำบุญวันสารท
ณ วัดป่าซัมเตอร์ เมืองซัมเตอร์ มลรัฐเซาท์แคโรไลน่า
วันอาทิตย์ที่ 30 เดือน กันยายน พ.ศ. 2555 (September 30, 2012)
....................................................................
วันสารท เป็นการทำบุญเดือนสิบ ถือเป็นคติและเชื่อสืบกันมาว่า ญาติที่ล่วงลับไปแล้ว จะมีโอกาสได้กลับมารับส่วนบุญจากญาติพี่น้องที่ยังมีชีวิตอยู่อุทิศส่วนบุญไปให้ ดังนั้นการทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ญาติในวันนี้และเชื่อว่า หากทำบุญในวันนี้ไปให้ญาติแล้วญาติจะได้รับส่วนบุญและมีโอกาสหมดหนี้กรรมพร้อมทั้งได้ไปเกิดในภพที่ดี
อีกประการหนึ่งสังคมไทยเป็นสังคมเกษตรกรรม ทำนาเป็นอาชีพหลักในช่วงเดือนสิบนี้ ได้ปักดำข้าวกล้าลงในนาหมดแล้ว กำลังงอกงาม และรอเก็บเกี่ยวเมื่อสุก จึงมีเวลาว่างพอที่จะทำบุญเพื่อเลี้ยงตอบแทน และขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรือแม่พระโพสพ หรือผีไร่ ผีนา ที่ช่วยรักษาข้าวกล้าในนาให้เจริญงอกงามดี และออกรวงจนสุกให้เก็บเกี่ยวได้ผลผลิตมาก
จะอย่างไรก็ตาม มีเรื่องเล่ากันมาว่า สมัยพุทธกาล มีพระราชา พระนามว่า พิมพิสาร ครั้นทำบุญแล้วไม่ได้อุทิศผลบุญไปให้พวกญาติที่ตายไปซึ่งบังเกิดในเปรตวิสัย ต่อมา เปรตทั้งหลายก็มาปรากฏตัว ส่งเสียงร้อง ทำให้พระองค์หวาดสะดุ้งกลัว รุ่งเช้าพระองค์จึงเสด็จไปถามพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้า ตรัสว่า มหาบพิตร พระองค์ทำบุญแล้วไม่ได้อุทิศส่วนบุญให้ญาติผู้ที่ล่วงลับไป ดังนั้นพระองค์ต้องทำบุญอีกครั้ง แล้วอุทิศผลบุญไปให้ผู้ที่ล่วงลับไป เมื่อพระเจ้าพิมพิสารทำบุญแล้วอุทิศผลบุญให้แก่พวกเปรต พวกเปรตก็อนุโมทนารับเอาส่วนบุญนั้นแล้ว ก็ประสบความสุขและไปสู่ภูมิที่ดี นี่เป็นการยกตัวอย่าง ดังนั้นวัดป่าซัมเตอร์ จึงได้จัดงานทำบุญวันสารท หรือคนอีสานเรียกว่า "บุญข้าวสาก" เพื่อเปิดโอกาสให้ญาติโยมได้ทำบุญอุทิศไปให้ญาติที่ล่วงลับไปแล้ว (โปรดนำอัฐิหรือภาพ ของบุพการีมาด้วย เพื่อพระสงฆ์จะได้ทำพิธีบังสุกุล)
12 ส.ค. 55 ทำบุญวันเเม่
ขอเชิญร่วมทำบุญวันเเม่เเห่งชาติ
ณ วัดป่าซัมเตอร์ เมืองซัมเตอร์ มลรัฐเซาท์เเคโรไลน่า
วันอาทิตย์ที่ 12 เดือน สิงหาคม พ.ศ. 2555 (August 12, 2012)
................................................
เนื่องในเทศกาลวันเเม่เเห่งชาติ วัดป่าซัมเตอร์ได้จัดงานทำบุญขึ้น เพื่อเเสดงความจงรักภักดีต่อเเม่ของเเผ่นดินคือพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถซึ่งเป็นรักของปวงชนชาวไทย คนไทยที่อยู่ในประเทศหรือในต่างประเทศ ควรจะเเสดงความจงรักภักดีต่อพระองค์ท่านผู้ได้กระทำคุณูปการต่อประเทศชาติเเละได้นำความร่มเย็นเป็นสุขเเก่ประชาชนโดยทั่วหน้า
อีกประการหนึ่ง เป็นวันเเสดงความกตัญญูกตเวทีต่อเเม่ผู้ให้กำเนิด ด้วยการทำบุญสร้างคุณงามความดี เพื่อตอบเเทนบุญคุณท่าน อย่างไรก็ตาม การตอบเเทนบุญคุณผู้ให้กำเนิดนั้น ถือได้ว่าเป็นเครื่องหมายของคนดี ซึ่งทุกคนควรจะให้ความสำคัญในวันเเม่เเห่งชาติ เพราะในหนึ่งปีมีครั้งเดียว ความรักของเเม่คือความรักเเท้ที่ยิ่งใหญ่ หาอะไรมาเปรียบไม่ได้ ดังนั้นลูกทุกคนควรรักเเม่ให้มาก อย่าทำให้ท่านเสียใจ อย่าเลี้ยงเเต่กายอย่างเดียวต้องเลี้ยงใจท่านด้วย ฉะนั้นจึงเชิญชวนทุกท่านมาสร้างความดี"เพื่อแม่"ซึ่งเป็นคนที่มีพระคุณมากที่สุดบนโลกใบนี้
บทความธรรมะ "คนเดียวในดวงใจ (เเม่)"
เนื่องในเดือนสิงหาคมของทุกปี เป็นเทศกาลวันเเม่เเห่งชาติ จึงขอเขียนบทความธรรมะเกี่ยวกับพระคุณเเม่ ++@คำว่า “แม่” คำเดียวสั้นๆ แต่มีความหมายที่ยิ่งใหญ่ เกินจะพรรณนาคุณได้จนหมดสิ้น แม้จะมีคนพยายามเปรียบเทียบพระคุณของแม่ อย่างที่มีผู้แต่งเพลงสรรเสริญไว้ว่า “...จะเอาโลกมาแทนปากกา เอานภามาแทนกระดาษ เอาน้ำหมดมหาสมุทรแทนหมึกวาด ประกาศพระคุณไม่พอ...” แต่เพลงที่ขึ้นหิ้งอมตะชั่วนิรันดร์ คือ เพลงค่าน้ำนม ท่วงทำนองไพเราะเสนาะโสต ตราตรึงในใจตลอดมา และคงตลอดไป เนื้อเพลงว่า “แม่นี้มีบุญคุณอันใหญ่หลวง ที่เฝ้าหวงห่วงลูกแต่หลังเมื่อยังนอนเปล แม่เราเฝ้าโอละเห่ กล่อมลูกน้อยนอนเปลไม่ห่างหันเหไปจนไกล แต่เล็กจนโตโอ้แม่ถนอม แม่ผ่ายผอมย่อมเกิดแต่รักลูกปักดวงใจ เติบโตโอ้เล็กจนใหญ่ นี่แหละหนาอะไรมิใช่ใดหนาเพราะค่าน้ำนม ควรคิดพินิจให้ดี ค่าน้ำนมแม่นี้จะมีอะไรเหมาะสม โอ้ว่าแม่จ๋าลูกคิดถึงค่าน้ำนม เลือดในอกผสมกลั่นเป็นน้ำนมให้ลูกดื่มกิน ค่าน้ำนมควรชวนให้ลูกฝัง แต่เมื่อหลังเปรียบดังผืนฟ้าหนักกว่าแผ่นดิน บวชเรียนพากเพียรจนสิ้น หยดหนึ่งน้ำนมกินทดแทนไม่สิ้นพระคุณแม่เอย” เมื่อได้ฟังเพลงนี้เมื่อไร ต้องหวนคิดแม่ผู้ให้กำเนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หวนคิดถึงวันเก่าๆ สมัยเป็นเด็ก และเนื้อหาเพลงยังเกี่ยวข้องกับขนบธรรมเนียมวิถีชีวิตคนไทย ที่มีความผูกพันกับวัดวาอาราม มีลูกชายต้องบวชเรียนทดแทนบุญคุณพ่อแม่ ด้วยหวังว่าจะได้เกาะชายผ้าเหลืองไปสู่สุคติ เมื่อละโลกนี้ไปแล้ว
July 29, 2012 ทำบุญเข้าพรรษา_/l\_
ขอเชิญร่วมทำบุญวันอาสาฬหบูชา-เข้าพรรษา
ณ วัดป่าซัมเตอร์ เมืองซัมเตอร์ มลรัฐเซาท์แคโรไลน่า
วันอาทิตย์ที่ 29 กรกฎาคม 2555 (July 29, 2012)
....................................................................
อาสาฬหบูชา คือวันที่พระพุทธเจ้าได้ทรงประกาศพระพุทธศาสนาเป็นครั้งแรก หลังจากตรัสรู้ได้ 2 เดือน โดยแสดงปฐมเทศนา ธัมมจักกัปปวัตตนสูตรโปรดพระปัญจวัคคีย์ทั้ง 5 ได้แก่ พระโกณฑัญญะ พระวัปปะ พระภัททิยะ พระมหานาม และพระอัสสชิ ที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน เมืองพาราณสี แคว้นมคธ จนพระอัญญาโกณฑัญญะได้บรรลุธรรมและขอบวชเป็นพระภิกษุรูปแรกในพระพุทธศาสนา จึงถือว่าวันนี้มีพระรัตนตรัยครบองค์สามบริบูรณ์ครั้งแรกในโลก คือ มีทั้งพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์
ส่วน"เข้าพรรษา" แปลว่า "พักฝน" หมายถึง พระภิกษุสงฆ์ต้องอยู่ประจำ ณ วัดใดวัดหนึ่งระหว่างฤดูฝน โดยเหตุที่พระภิกษุในสมัยพุทธกาล มีหน้าที่จะต้องจาริกโปรดสัตว์ และเผยแผ่พระธรรมคำสั่งสอนแก่ประชาชนไปในที่ต่าง ๆ ไม่จำเป็นต้องมีที่อยู่ประจำ แม้ในฤดูฝน ชาวบ้านจึงตำหนิว่าไปเหยียบข้าวกล้าและพืชอื่นๆ จนเสียหาย พระพุทธเจ้าจึงทรงวางระเบียบการจำพรรษาให้พระภิกษุอยู่ประจำที่ตลอด 3 เดือน ในฤดูฝน คือ เริ่มตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 ของทุกปี ถ้าปีใดมีเดือน 8 สองครั้ง ก็เลื่อนมาเป็นวันแรม 1 ค่ำ เดือนแปดหลัง ดังนั้น จึงขอเรียนเชิญเจริญพรคณะศรัทธาญาติโยมทั้งหลาย มาร่วมทำบุญตักบาตร ถวายสังฆทาน-ผ้าจำนำพรรษา ฟังธรรมเทศนา ทอดผ้าป่าสามัคคี และเวียนเทียน ในวันอาทิตย์ที่ 29 ก.ค. 2555